- มนุษย์เกิดมิคสัญญีที่ใจPosted 3 hours ago
- ระวังเพื่อความปลอดภัยPosted 1 day ago
- ขอให้ฮึดสู้Posted 4 days ago
- สยบพวกอันธพาลให้ได้Posted 5 days ago
- อย่าทำอะไรมักง่ายPosted 6 days ago
- ผ้าเหลืองห่อเปรตPosted 1 week ago
- จงตั้งใจเรียนเพื่อพ่อแม่Posted 1 week ago
- อย่าใช้วิชามารPosted 2 weeks ago
- ต้องทบทวนให้ดีPosted 2 weeks ago
- นายจ้าง-ลูกจ้างต้องเอื้อกันPosted 2 weeks ago
ข้าวตราไก่แจ้เดินหน้าแจกข้าวสารต่อลมหายใจผู้ประกอบการ พร้อมร่วมสู้โควิดกับโครงการ ข้าวไก่แจ้ Support ปี 2
ข้าวตราไก่แจ้เดินหน้าแจกข้าวสารต่อลมหายใจผู้ประกอบการร้านขายอาหารทั่วประเทศ ตั้งเป้าแจก 1 เดือน 10 ร้านค้า พร้อมเดินหน้าสู้วิกฤตโควิด-19 อีกครั้ง กับโครงการ “ข้าวไก่แจ้ Support ปี 2” หวังช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุน เพื่อก้าวผ่านวิฤตโรคโควิด-19 ระบาดอีกครั้ง
นายธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงแบรนด์ “ไก่แจ้” กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ส่งผลให้ประชาชนในประเทศไทยและทั่วโลกต้องกลับมาถอยหลังเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหารบางรายเพิ่งฟื้นตัวจากสถานการณ์ครั้งที่แล้วต้องกลับมาสู้ต่ออีกครั้ง
“ข้าวตราไก่แจ้” จึงขอเป็นส่วนหนึ่งร่วมสู้โควิดกับพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยสานต่อโครงการ “ข้าวไก่แจ้ Support ปี 2” เดินหน้าแจกข้าวสารให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยทั่วประเทศเพื่อต่อลมหายใจให้กับทุกคน อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดต้นทุนในการซื้อข้าวสารมาประกอบอาหาร “เราจะรอดไปไม่ได้ถ้าไม่ช่วยเหลือกัน” เราอยากให้ทุกคนได้ไปต่อโดยไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ซึ่งตั้งเป้าแจกข้าวสาร 1 เดือน 10 ร้านค้า
นายธีรินทร์ปิดท้ายว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้นมา เราก็เริ่มหันมาดูในส่วนของผู้ประกอบการร้านค้า-ร้านอาหารจำพวกร้านค้าเล็กๆที่ประสบปัญหาในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ผลกระทบหนึ่งคือทำให้ร้านค้าเล็กๆบางร้านที่ไม่รู้ในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีถูกตัดขาด บางร้านยอดขายหายไป 80-90% เลยทีเดียว เราเล็งเห็นความลำบากในจุดนี้จึงอยากช่วยเหลือ แม้ไม่ได้มากมายแต่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องต้นทุนลงได้
โดยในปี 2564 นี้เราได้เดินหน้าต่อด้วยการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าต่างประเทศผ่านทางออนไลน์มากขึ้นกว่าแต่เดิม เพราะในปี 2563 ตลาดต่างประเทศโตขึ้นจากเดิมมากถึง 30% โดยแบรนด์เราได้บุกตลาดต่างประเทศในโซนยุโรปไปแล้ว 7 ประเทศ มองว่าผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 2 ในปี 2564 นี้ ไม่น่าจะแย่กว่าปีที่แล้ว เพราะคนไทยมีการปรับตัวแล้ว มีความเข้าใจในโควิดมากยิ่งขึ้น มีความตื่นตระหนกน้อยลง และรู้จักการป้องกันตัวมากขึ้น รวมถึงทางฝั่งรัฐบาลเองก็ไม่ได้มีนโยบายที่จะล็อกดาวน์ แต่หันมารณรงค์ในด้านการป้องกันมากขึ้น จึงทำให้เศรษฐกิจยังพอที่จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เรียกง่ายๆว่าอยู่ได้ทั้งโควิด-19 และเศรษฐกิจ” ถึงอย่างไรธุรกิจต่างๆจะต้องเริ่มปรับตัวให้เร็ว โดยเฉพาะธุรกิจที่ยังต้องพึ่งพาต่างประเทศ จะต้องเร่งหาแนวทางในการจัดการ รวมถึงการบริหารค่าใช้จ่ายต่างๆในการปรับตัว อาจจะต้องรอให้โควิด-19 หายก่อนแล้วค่อยดำเนินธุรกิจต่อ หรือเปลี่ยนมาจับกลุ่มลูกค้าคนไทยแทน เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินอยู่ได้ต่อไป
You must be logged in to post a comment Login